เป็นเพราะเนื่องจากอาทิตย์นี้ ไม่ได้มีหนังเข้าใหม่เรื่องไหนที่เข้าตาผมเลยสักเรื่องเดียว เพราะฉะนั้นจึงเป็นอาทิตย์ที่ได้มาเก็บตกหนังจากอาทิตย์ที่แล้ว โดยหนังที่ผมเลือกก็คือ หนังเกาหลี ที่มาพร้อมกับสโลแกน ไม่เรียกน้ำตา ไม่สร้างออกมา อีกเช่นเคยกับหนังที่เข้าแบบเงียบๆที่มีชื่อไทยว่า รักแรกในความทรงจำ
ความทรงจำในอดีตที่ย้อนคืนมาบรรจบกันของ “ซึงมิน” เด็กหนุ่มที่อาศัยอยู่ในกรุงโซลมาตลอดชีวิต…แต่ ณ เวลานี้เขากำลังเดินทางไปยังสถานที่ห่างไกลออกไปเพื่อทำงานในหน้าที่สถาปนิก และ “ซอยอน” อดีตเด็กสาวที่เคยตะลอนอยู่ในเมืองใหญ่อย่างกรุงโซลที่ไม่คุ้นเคย อย่างไร้จุดหมาย.. แต่ ณ ตอนนี้เธอกำลังจะลงหลักปักฐานอีกครั้งในบ้านที่จะสร้างใหม่ของเธอ ที่เกาะเจจู ไกลจากกรุงโซล สถาปนิกหนุ่มและลูกค้าสาว ได้กลับมาเจอกัน พร้อมๆ กับความทรงจำของทั้งสองก็ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งในแบบสมัยวันวานที่พวกเขาเคยรักกัน เข้าฉายแล้ววันนี้เฉพาะในโรงภาพยนตร์เครือ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เท่านั้นนะครับ
Architecture 101 เป็นผลงานการกำกับของผู้กำกับชาวเกาหลี ลียงจู ที่เชื่อว่าใครหลายๆคนคงไม่คุ้นชื่อ รวมทั้งผมด้วยเช่นเดียวกัน โดยสำหรับ Architecture 101 เป็นหนังรักเกาหลีที่เล่าเรื่องสไตล์ตัดสลับไปมาระหว่าง ความทรงจำในอดีต และ เรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นในปัจจุบัน ของคู่รักคู่หนึ่งที่ต้องเดินทางกลับมาเจอกันอีกครั้งด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง ซึ่งถ้าหากเป็นหนังเกาหลีเรื่องอื่นๆแนวที่ มีความรักในวัยเรียน ตัวหนังจะออกมาประเภทที่ทำให้เรื่องราวความรักที่หนังกำลังเล่าอยู่นั่นค่อนข้าง สดใส และ ใส่ลูกเล่นหลายๆอย่างที่จะสามารถทำให้คนดูรู้สึก อิน และเอาใจช่วยตัวละคร พระเอก-นางเอก ให้มารักกันให้ได้ แต่สำหรับ Architecture 101 กลับไม่ได้เลือกตัวเลือกที่ผมกล่าวมา แต่หนังกลับเลือกตัวเลือกที่จะเฉลยให้รู้ตั้งแต่ต้นเรื่องเลยว่า ‘พระนางไม่ได้คู่กัน’
ซึ่งการที่หนังเล่าเรื่องแบบนี้ ถ้าหากฝีไม้ลายมือของผู้กำกับไม่เด็ดพอจริงๆ ตัวหนังก็คงจะกลายเป็นหนังที่อุดมไปด้วยความน่าเบื่อเพราะการที่คนดูได้รู้บทสรุปตั้งแต่ต้นเรื่อง แต่ดูเหมือนกับว่ามันจะไม่ใช่ปัญหาสำหรับ Architecture 101 เลยสักนิด ที่เล่าเรื่องแบบเฉลยปมให้คนดูรู้เสียก่อน เพราะสิ่งที่ผู้กำกับสามารถใส่เรื่องราวระหว่างความรักของคู่พระนางได้อย่างดี คงหนีไม่พ้นอารมณ์ความกุ๊กกิ๊กน่ารักสไตล์หนังแนว coming of age พร้อมทั้งยังสามารถมีลูกเล่นในการนำเอาเรื่องราวเกี่ยวกับการตั้งคำถามให้กับคนดูว่า ‘คุณยังจำรักครั้งแรกของคุณได้หรือไม่’ เอามาปรุงเสน่ห์ได้อย่างมีสีสัน ที่มาควบคู่ไปกับฉากเรียกน้ำตา
พร้อมทั้งอีกสิ่งที่ผู้กำกับยังถือว่าพอใส่ลูกเล่นเข้ามาได้อย่างมีสีสันพอสมควร ถึงแม้จะยังไม่หนักแน่นเท่าที่ควร แต่ก็ถือว่าพอให้หนังมีรสชาติขึ้นมาอีกหน่อยนั้นคือการที่ผู้กำกับใส่เรื่องราวเกี่ยว การเสียดสียุคสมัย ผ่าน เครื่องใช่ไฟฟ้า ทั้งหลาย พร้อมทั้งยังมีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องราวของ ชนชั้น และ ฐานะ ของคน ที่ว่าคนเราควรจะภูมิใจ และ รู้คุณค่า ในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ ไม่ใช่ว่าเวลาจะดูใจคบหากับใครบางคน ต้องพยายามทำให้ตัวเองดูดีมีราคา เพราะหารู้ไม่ว่าเวลา ผู้หญิง บางคนจะคบหากับ ผู้ชาย ไม่ใช่ดูที่ราคาการแต่งตัว แต่หากดูที่จิตใจ และ เนื้อใน ของผู้ชายมากกว่าเสื้อผ้าราคาแพงที่ใส่เสร็จแล้วก็ต้องทิ้งอยู่วันยังค่ำสักวัน
โดยผมก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปากเหมือนกันว่าทุกคนจะชื่นชอบ Architecture 101 เหมือนที่ผมชอบ เพราะสิ่งที่ผมคิดว่ายังเป็นข้อเสียพอสมควรสำหรับ Architecture 101 ก็หนีไม่พ้นข้อเสียเดิมๆของหนังแนวที่เล่าเรื่องราวตัดสลับไปมาระหว่าง ปัจจุบัน และ อดีต ที่ทำให้ตัวเรื่องไม่สามารถดำเนินทางไปเป็นเส้นตรงได้ หนำซ้ำมันยังค่อนข้างมีผลกับฉากเรียกน้ำตาบางฉากด้วยซ้ำไป แถมตัวหนังก็ยังถือว่าไม่ค่อยเน้นเรื่องราวของ บุคคลที่สาม มากนัก ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ และญาติพี่น้อง ถึงแม้ว่าหนังจะมีการปูเรื่องราว ความยากจน ของตัวพระเอกมาแล้วก็ตามที และท้ายสุด Architecture 101 ก็น่าจะเป็นหนังที่ไม่เหมาะที่สุด กับใครก็ตามที่เบื่อหนังสไตล์บีบน้ำตา และมาพร้อมกับความรักน้ำเน่า สไตล์รูปแบบเกาหลี เพราะขอเตือนไว้เลยว่าเขาจัดเต็มมาตลอดเรื่อง
แต่สำหรับผมแล้ว Architecture 101 ก็ถือว่าเป็นหนังแนวบีบน้ำตาสไตล์เกาหลี ที่ถือว่ายังทำออกมาได้ดูสนุก ซาบซึ้ง และค่อนข้างประทับใจกว่าที่คิดไว้ เพราะนอกจากจะมาพร้อมกับฉากกุ๊กกิ๊กมากมาย หนังยังใส่ประเด็นเกี่ยวกับ ฐานะ ความเป็นอยู่ และ เสียดสียุคสมัย ออกมาได้อย่างค่อนข้างโอเคอีกด้วย